ข้าวเม่า
ได้มาจากรวงข้าวสีเขียวไล่มาจนถึงสีเขียวตกน้ำตาล
การบริโภคข้าวเม่าพบในทุกประเทศที่ปลูกข้าว ตั้งแต่ไทยลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า
ภูฏาน อินเดีย ทิเบต ในภูฏานใช้เป็นอาหารว่างกินกับน้ำชา ในไทยเป็นขนมที่นิยมกินมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในอดีตตอนหน้าน้ำจะมีแม่ค้านำขนมใส่เรือมาขาย
และขนมกลุ่มนั้นมีข้าวเม่าทอดอยู่ด้วย มีกล่าวถึงข้าวเม่าในนิราศน้ำท่วมใหญ่ พ.ศ. 2460 ว่าพวกแม่ค้ามาขายข้าวเม่าทอด แตงเมหลอดน้ำยาแกงปลาไหล มีเพลงกล่อมเด็กกล่าวถึงข้าวเม่าว่า
โอ้ละเห่เอย หัวล้านนอนเปล ลักข้าวเม่าเขากิน
เขาจับตัวได้เอาหัวไถลไถดิน หัวล้านมักกินตกสะพานลอยไป
ข้าวเม่ามีทั้งข้าวเม่าข้าวเหนียว
ข้าวเจ้าและข้าวเหนียวดำ โดยที่นิยมมากที่สุดคือข้าวเม่าข้าวเหนียว แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ ข้าวฮ่างหรือข้าวเม่าอ่อนทำจากเมล็ดข้าวสีเขียวจัด
ข้าวเม่าแบบเขียวอ่อน ทำจากข้าวห่ามที่เปลือกเป็นสีเขียวเข้ม ข้าวเม่าขาวนวล
ทำจากข้าวเกือบแก่ เปลือกเขียวอมน้ำตาล ข้าวเม่าทำเป็นขนมได้หลายแบบ เช่น
ใส่เป็นส่วนผสมในกระยาสารท ข้าวเม่าบด
ใช้ข้าวเม่าใหม่คั่วให้หอมแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง หยดหัวกะทิลงบนข้าวเม่าที่กรองไว้
กะทิจะผสมข้าวเม่าเป็นก้อน แล้วนำมากลิ้งไปมาบนฝ่ามือให้เป็นก้อนเหมือนไข่จะละเม็ดข้าวเม่าราง
คือข้าวเม่าที่นำมาคั่วจนพองแล้วกินกับน้ำกะทิ ข้าวเม่าหมี่ เป็นข้าวเม่ารางแบบแห้ง คือใส่กุ้งแห้ง
เต้าหู้ทอด ถั่วลิสง หรือใส่น้ำตาลทรายถ้าเป็นแบบหวานข้าวเม่าทอด
เป็นข้าวเม่ากวนกับน้ำตาลผสมกับแป้งพอกกล้วยไข่ทั้งลูกแล้วทอด
บางท้องถิ่นเรียกกล้วยข้าวเม่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น